"ดร.ศุภศักดิ์ เงาประเสริฐวงศ์" : มวยไทยต้องปฏิรูปไม่อย่างนั้นพังทั้งระบบ!

"ผมบางทีอาจจะอยู่เป็นแกะดำของแวดวงมวยไทย แม้กระนั้นผมรู้สึกว่าไอ้การมีอยู่ของแกะดำตัวนี้ มันน่าทำให้บุคคลภายนอกมองดูสังคมมวยไทยดียิ่งขึ้น ผมเชื่อแบบงั้นนะ"

ลองคิดดูของใครซักคนที่จะมาดำเนินงานเป็น โปรโมเตอร์มวยไทยอาชีพในบ้านพวกเรา หลายๆคนอาจมีภาพในหัวเป็น ผู้ที่มีลักษณะท่าทางน่าเคารพ มากมายด้วยบารมี เหมือนกับหลุดมาจากหนังเจ้าพ่อแม้กระนั้นผู้ที่อยู่เบื้องหน้าพวกเรานั้น ตรงกันข้ามกับ ภาพโปรโมเตอร์ในความนึกคิดของใครๆผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย เนื่องจากเขามีลักษณะท่าทางมองมีสง่าเป็นนักวิชาการมากยิ่งกว่า

เขาเป็น “ศุภอำนาจ เงาประเสิรฐตระกูล” คุณครูแผนกมนุษย์ศาสตร์ สาขาการจัดการท่องเที่ยวแล้วก็บริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา หรือคนภายในแวดวงมวยรู้จักในชื่อ “ดร.น็อต” อันมาจากคุณสมบัติด้านการศึกษาและก็ชื่อเล่นของเจ้าตัว เพศชายคนนี้มีความน่าดึงดูดใจ เพราะเหตุว่าเขาไม่ใช่เซียนมวย, หัวหน้าภาควิชา หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแวดวงมวย ที่ผันตัวมาปฏิบัติงาน “โปรโมเตอร์” แบบที่เกือบ 100%เป็นกัน แต่ว่าเขามาจากคนภายนอกแวดวงมวย ที่เริ่มจากการเป็นผู้ชมในสนาม ก่อนที่จะวันหนึ่งจะก้าวเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็น “โปรโมเตอร์” จัดแจงชิงชัยในเวทีลุมพินี

ท่ามกลางเหตุการณ์ที่ยอดผู้ชมในเวที น้อยลงอย่างน่าตกใจ จนถึงทำให้ โปรโมเตอร์ทั้งหลายแหล่ ได้รับผลพวง แล้วก็เผชิญสภาวะขาดทุนอย่างมาก ในฐานะผู้เคยชำนาญกับวงการการคลังและก็การลงุทน เขาเห็นว่าทางออกเดียวที่จะช่วยทำให้ “แวดวงมวยไทย” ดียิ่งขึ้นได้ เป็น การจะต้องปรับปรุงและก็ปรับนิสัยให้กับโลกช่วงปัจจุบัน

- ระหว่างการเข้ามาดำเนินงานในทางสายวิชาการ กับความชื่นชอบในมวยไทย อย่างใดเกิดขึ้นก่อนในชีวิตคุณ?

โอ๊ย ผมถูกใจมวยไทยมาก่อนมาก ผมมองมวยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ มองตามอากงและก็ป๋า เริ่มจากมองมวยตู้ (มวยที่มีการถ่ายทอดสด) มวยแห้ง (มวยบันทึกการแข่งขันชิงชัย) แล้วต่อจากนั้นก็ตามพ่อเข้าเวทีมวย แล้วก็หาอ่านหนังสือมวยรายสัปดาห์ พอเพียงเริ่มโตเป็นวัยรุ่นก็เริ่มไปดูเอง ตั้งแต่ยุคลุมพินียังเป็นวิกสังกะสี บรรยากาศอดีตคนแน่นมากมาย ผมก็จะไปนั่งอยู่โซนแม่บ้าน ชั้น 3 ที่ปลอดคนเล่นการเดิมพันกัน พอเพียงเริ่มดำเนินการมีเงิน ก็ซื้อตั๋วมองอยู่ชั้น 2

จริงๆมองเห็นผมสวมแว่นอย่างงี้ ผมไม่ใช่เด็กเนิร์ดนะ ผมเป็นเด็กที่มักจะทำกิจกรรม ถูกใจมองมวยไทย เพราะว่ามันบันเทิงใจตื่นเต้นตื่นเต้นดี ก็ติดตามมวยมาตลอดในฐานะผู้ชม ไม่ใช่เซียนมวย

ส่วนงานสอนหนังสือ ผมเพิ่งจะมาทำเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นผมจบการศึกษาปริญญาตรีแล้วก็โท สายไฟแนนซ์ เรื่องการเงิน ก็ดำเนินการอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และก็เคยเขียนพ็อคเกตบุ๊คเกี่ยวกับการคลังการลงทุน ซึ่งก็มิได้เกี่ยวพันกับมวยไทย แต่ว่ามวยไทยมันเป็นสิ่งที่ผมถูกใจมาตั้งแต่เด็ก

- แล้วคุณเข้ามาสู่แวดวงมวย เป็นโปรโมเตอร์จัดแจงชิงชัยได้เช่นไร?

ผมจบการศึกษาปริญญาโท ตอนอายุ 26 ปี ก็เริ่มมองดูถัดไปที่ ปริญญาเอก แต่ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาพวกเราเรียนเกี่ยวกับการจัดการด้านธุรกิจ แล้วก็การคลังมา มีความรู้สึกว่าตนเองคงจะมีความชำนิชำนาญพอแล้ว แม้ศึกษาต่อปริญญาเอก ก็ต้องการไปเรียนอะไรที่น่าจะเป็นผลดีกับตนเอง พอดิบพอดีขณะนั้น มัธยมศรีปทุม เปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจกีฬาแล้วก็เบิกบานเมื่อสัก 10 ปีกลาย ก็เลยตกลงใจเรียนปริญญาเอกด้านธุรกิจกีฬา ด้วยเหตุว่าพวกเราถูกใจมวยไทยด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งพอเพียงเข้าไปเรียน ทุกคนในคลาสเป็นผู้ที่เกี่ยวเนื่องกับแวดวงกีฬาหมดเลย พวกเราเป็นผู้เดียวที่มาจากผู้ชม จุดแปลงมันมาจากการที่จะต้องปฏิบัติงานศึกษาค้นคว้าเชิงลึก ผมเลือกทำศึกษาค้นคว้าเรื่อง “การพัฒนาแบบการจัดการแข่งมวยไทยเพื่อช่วยเหลือการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในทศวรรษหน้า” ทำให้จำต้องลงไปสัมภาษณ์ คนภายในแวดวง อีกทั้ง โปรโมเตอร์ นายสนาม ทำให้ได้มารู้จักกับ คุณทรงชัย รัตนสุบรรณ ผ่านทาง ดร.ศิรโลก รัตนสุบรรณ ลูกชายของท่านที่เรียนร่วมกัน

ผมก็เลยได้เข้าไปเรียนรู้ศึกษางาน หรือซัพพอเพียงร์ทบางอปิ้งที่พวกเราพอเพียงช่วยได้ เสมือนเป็นคณะทำงานคนหนึ่งของศึกวันทรงชัย ต่อนี้ไปตอนสำเร็จการศึกษาปริญญาเอก ก็ได้โอกาสจัดมวยเอง เนื่องจากว่ามีคนแก่คนหนึ่ง ติดต่อให้พวกเราผสานจัดมวย โดยจะถ่ายทอดผ่านทางเคเบิลเขตแดน แล้วก็ให้ผมเป็นโปรโมเตอร์

ปรากฏว่าคราวแรกจัด 4 คู่ ผลที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันกลับทุกคู่เลย คณะทำงานก็ดูว่า “ดร.น็อต จัดมวยมีดวงนะ” น่าทำต่อ ผมก็บ้ายุ เลยไปจัดสักระยะหนึ่ง จนกระทั่งผู้ส่งเสริมและสนับนุนหาผู้สนับสนุนมิได้ ก็หยุดไป แต่ว่านับว่าเป็นจุดเริ่มแรกที่ทำให้ผมได้มาจัดมวย หลังจากนั้นก็ได้โอกาสได้มาจัดสล็อตจัดมวยในเวทีลุมพินี ใช้ชื่อศึกว่า “ดร.น็อตมวยไทยซุปเปอร์ไฟท์”

- หน้าที่หน้าที่ ความรับผิดชอบ หรือมุมมองต่อแวดวงมวย แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เมื่อแปลงสถานะจากผู้ชมมาเป็นคนจัด?

คนละเรื่องเลย จากหน้ามือเป็นหลังมือ มันมิได้ดังที่พวกเราคิด โอเคพวกเราเพียงพอทราบขั้นตอนว่า จะจัดมวยจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ก่อนต่อย วันต่อย จำต้องทำอะไร ปัญหาแล้วก็ปัญหาที่พบ ก็ไม่หนีจากการที่คาดหวังสักเท่าไหร่ แต่ว่าพอเพียงจำต้องมาชนจริงๆมนุษย์มันมีเรื่องมีราวภาวะจิตใจเข้ามาเกี่ยวด้วย ครั้งคราวพบคนอัลธพาล คนเห็นแต่ได้ มนุษย์ร้อยคนก็ร้อยอย่าง มันก็มีเครียดบ้าง

สนใจพนันบอลถูกฏหมาย สนใจคลิก Muaithai65

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แนวทางหวยฮานอย 8 ธันวาคม 62

ศึกมวยไทย7สี ไร้เสียว! ‘สิทธิศักดิ์’ โชว์เก๋าต้อน ‘สิบแสน’ ป้องแชมป์สบาย!